TAS 18 รายได้ โอน Risk&Rewards เปลี่ยนเป็น TFRS 15 โอน Control
ขั้นตอนการพิจารณารับรู้รายได้
วิธี Five-step mode ตาม TFRS15
1. ระบุสัญญาที่ทำกับลูกค้า
2. ระบุภาระที่ต้องปฏิบัติ
3. กำหนดราคาของรายการ
4. ปันส่วนราคาของรายการให้กับภาระที่ต้องปฏิบัติที่รวมอยู่ในสัญญา
5. รับรู้รายได้เมื่อ(หรือขณะที่)กิจการปฏิบัติตามภาระที่ต้องปฏิบัติเสร็จสิ้น
TFRS 15 : รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า เริ่มใช้ 1/1/2562
ยกเลิก
TAS18: รายได้
TAS11: สัญญาก่อสร้าง
TFRIC18 : เรื่องการโอนสินทรัพย์จากลูกค้า
TFRIC13: โปรแกรมสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า
TSIC31: เรื่องรายการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับบริการโฆษณา
TFRIC18: เรื่องสัญญาสำหรับก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์
STEP1 : ระบุสัญญาที่ทำกับลูกค้า
สัญญา ข้อตกลงตั้งแต่ 2 ฝ่าย เกิดสิทธิบังคับได้และภาระผูกพันไม่สามารถยุติได้ ยกเว้นจ่ายค่าชดเชย
เงื่อนไขในการรับรู้สัญญา
- สัญญาอนุมัติแล้วโดยลายลักษณ์อักษร วาจา หรือ ประเพณี
- สัญญาระบุเงื่อนไขการชำระสิ่งตอบแทน
- ระบุสิทธิทั้ง 2 ฝ่าย เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ต้องส่งมอบ
- สัญญามีเนื้อหาเชิงพาณิชญ์
- มีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่จะเรียกเก็บสิ่งตอบแทนได้
เริ่มวิเคราะห์ Step 2 ได้
** ไม่เกิดสัญญา จะไม่เริ่มรับรู้รายได้ตาม Step ต่อๆไป
ตัวอย่าง : กิจการขายอาคาร 10 ล้าน ลูกค้าจ่ายเงินดาวน์ 1 ล้าน แต่ลูกค้ากำลังล้มละลาย กิจการมีความเป็นไปได้ค่อนข้างแน่ที่จะรับรู้รายได้เพียง 1 ล้านเท่านั้น ถึงแม้จะมีการโอน Control ของอาคารแล้วก็ตาม
STEP 2 : ระบุภาระที่ต้องปฏิบัติ (Performance Obligation – PO)
ภาระที่ต้องปฏิบัติ (PO) หมายถึง ข้อตกลงในสัญญากับลกค้า เพื่อโอนสิ่งเหล่านี้
1. สินค้าหรือบริการที่แตกต่างกัน
2. ชุดของสินค้าและบริการที่แตกต่างกันแต่มีลักษณะโดยส่วนใหญ่เหมือนกัน (Single PO)
ชุดของสินค้าหรือบริการ ( มากกว่า 1 สินค้าหรือ 1 บริการ )
มีการบูรณาการกันเป็นอย่างเดียว เช่น รับเหมาก่อสร้าง
-ขายวัสดุ
-ก่อสร้าง
รวมเป็น 1PO เพราะต้องทำควบคู่กัน ไม่สามารถทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งได้
มีการดัดแปลงอย่างมีสาระสำคัญ เช่น ขายโปรแกรม SAP
- ขายโปรแกรม
- ติดตั้งโปรแกรม
รวมเป็น 1PO เพราะต้องปรับแต่งโปรแกรมใหม่อย่างมีสาระสำคัญให้เข้ากับงานลูกค้า
พึ่งพาหรือเกี่ยวข้องกันอย่างมาก เช่น พัฒนาสินค้า
- ออกแบบสินค้า
- พัฒนาสินค้า
รวมเป็น 1PO เพราะต้องออกแบบและพัฒนาควบคู่กันไม่สามารถจ้างทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้
ลูกค้าได้ประโยชน์จากแต่ละสินค้าและบริการโดยตรงโดยแยกนำไปใช้กับสิ่งที่ลูกค้ามี เช่น ขายโปรแกรม Window
- ขายโปรแกรม
- ติดตั้งโปรแกรม
เป็ร 2PO เพราะ ลูกค้ามารถซื้อแต่โปรแกรมและให้ใครติดตั้งก็ได้ ไม่ยากเกิน
สินค้าและบริการแต่ละอันสามารถระบุแยกจากข้อตกลงอื่นได้ เช่น ขายเครื่องจักรพร้อมซื้อปนะกันเพิ่ม
- ขายเครื่องจักร
- ประกันสินค้า
- บริการระบุแยกจากกันชัดเจนไม่มีความเกี่ยวข้องกัน จะซื้อไม่ซื้อประกันเพิ่มก็ได้
STEP3 : กำหนดราคาของรายการ (Transaction Price)
ทั่วไปราคาของรายการจะเท่ากับจำนวนเงินที่ระบุในสัญญา แต่บางกรณีสัญญาอาจระบุเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น สิ่งตอบแทนผันแปร, สิ่งตอบแทนที่ไม่ใช้เงินสด, สิ่งตอบแทนที่จ่ายให้กับลูกค้า และมีองค์ประกอบเกี่ยวกับการจัดหาเงินที่มีนัยสำคัญในสัญญา เช่น ซื้อยิ่งมากราคายิ่งถูก คือราคาตามดัชนีต่างๆ
STEP4 : ปันส่วนราคาของรายการให้กับภาระที่ต้องปฏิบัติที่รวมอยู่ในสัญญา
(เกิดขึ้นเฉพาะกรณี 1 สัญญามีมากกว่า 1 ภาระเท่านั้น)
กิจการต้องปันส่วนราคาของแต่ละ PO โดยใช้ราคาขายแบบเอกเทศ (ราคาที่ขายหรือบริการแก่ลูกค้าโดยทั่วไป) ถ้าหาราคาเอกเทศไม่ได้ให้ใช้ 3 วิธี คือ
1. วิธีปรับปรุงจากการสำรวจตลาด คือ ใช้ราคาคู่แข่งหรือราคาตลาด
2. วิธีต้นทุนคงที่คาดไว้บวกด้วยอัตรากำไร คือ ประมาณต้นทุนและบวก Margin เป็นราคาเอกเทศ
3. วิธีส่วนของราคาที่เหลือ คือใช้ราคาเอกเทศของ PO ที่ทราบ หักออกจากราคารวม ที่เหลือเป็นราคาเอกเทศของ PO ที่ไม่ทราบ
ตัวอย่าง : กิจการขายเครื่องกรองน้ำพร้อมติดตั้งและขายบริการรับประกัน 10 ปี โดยเราสามารถแบ่งออกเป็น 3 PO ดังนี้
PO ราคาตามสัญญา ราคาขายแบบเอกเทศ ปันส่วน ราคาของรายการ
เครื่องกรองน้ำบริ
การติดตั้งรับประกัน 10 ปี 10,000 10,000 10,000/14,000*10,000 7,150
2,000 2,000/14,000*10,000 1,425
2,000 2,000/14,000*10,000 1,425
14,000 10,000
Dr.เงินสด 10,000
Cr.ขายและให้บริการ 8,575
Cr.รายได้รับล่วงหน้า 10 ปี 1,425
(ทยอยรับรู้)
STEP5 : รับรู้รายได้เมื่อ(หรือขณะที่) กิจการปฏิบัติตามภาระที่ต้องปฏิบัติเสร็จสิ้น
Over Time
ภาระที่ต้องปฏิบัติเสร็จสิ้นตลอดช่วงเวลาหนึ่ง คือ การรับรู้รายได้ตลอดเวลาของปฏิบัติตามภาระโดยวัดความก้าวหน้า แบ่งเป็น
1. วิธีผลผลิต วัดจากมูลค่าสินค้าหรือบริการที่โอน Control ให้ลูกค้า
2. วิธีปัจจัยนำเข้า วัดจากมูลค่าทรัพยากรที่ใช้ไป
ทยอยรับรู้รายได้
ผู้ขาย ระหว่างผลิต ผู้ซื้อ
Point in Time
ภาระที่ต้องปฏิบัติเสร็จสิ้น ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง
จะใช้ได้เมื่อไม่เข้าเงื่อนไขของ Over time โดยจะมีการรับรู้รายได้เมื่อมีการโอน Control ในสินค้าหรือบริการให้ลูกค้า ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น
ผู้ขาย ระหว่างผลิต ส่งมอบ ผู้ซื้อ รับรู้รายได้เมื่อโอน Control
เงื่อนไขการรับรู้รายได้แบบ Over Time เมื่อลูกค้า
1. ได้รับประโยชน์ทันทีที่กิจการได้ปฏิบัติงาน
ตัวอย่าง งานรักษาความปลอดภัย งานทำความสะอาด
2. ได้ Control ในสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ตัวอย่าง สร้างอาคาร พัฒนาโปรแกรม
3. การปฏิบัติงานไม่ก่อให้เกิด “ทางเลือกอื่นในการนำไปใช้ (Alternative Use)” และกิจการมีอำนาจบังคับให้จ่ายชำระสำหรับการปฏิบัติงานนั้น
ตัวอย่าง งานที่เจาะจง ขายลูกค้าที่ Orderได้เท่านั้นไม่สามารถนำไปขายคนอื่นได้
ถ้าเป็นประโยชน์ต่อนักบัญชีและผู้สอบบัญชีฝาก Like & Share & Subscribe ด้วยค่ะ
Facebook GungGinkk School
Youtube GungGinkk School
Comments